เปิดตัว iOS 12 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด พร้อมสรุปทุกข้อมูลฟีเจอร์ใหม่ ด้าน iPhone 5S ยังได้ไปต่อ!

เปิดตัว iOS 12 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุด พร้อมสรุปทุกข้อมูลฟีเจอร์ใหม่ ด้าน iPhone 5S ยังได้ไปต่อ!

ในที่สุดก็เปิดตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะคะ สำหรับ iOS 12 ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ล่าสุดภายในงาน WWDC 2018(Worldwide Developers Conference 2018) ของ Apple ที่จัดขึ้นเพื่อให้เหล่านักพัฒนาแอปพลิเคชัน และโปรแกรมต่างๆ ได้มาร่วมพูดคุยเพื่อค้นหาแนวทางสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวล้ำมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะมีฟีเจอร์ใดที่น่าสนใจบ้างนั้น ไปติดตามชมพร้อมกันได้เลยค่ะ

ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น

บนระบบปฏิบัติการ iOS 12 ประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมดีขึ้นบน iDevice รุ่นปัจจุบัน และรุ่นก่อน ที่สามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม โดยยกตัวอย่างในรุ่น iPhone 6 Plus (เปิดตัวในปี 2014) จะสามารถเปิดแอปพลิเคชันได้เร็วขึ้นราว 40% และเปิดใช้งานกล้องจากหน้า Lock Screen ได้เร็วกว่าเดิมถึง 70% ส่วนในด้านการเรียกใช้คีย์บอร์ดก็ทำได้ดีขึ้น 50% รวมถึงเปิดแอปพลิเคชัน หรือหน้าจอ Share ได้เร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่าในขณะประมวลผลหนัก

FaceTime แบบกลุ่ม

FaceTime บน iOS 12 เพิ่มความสามารถในการโทรหากันแบบกลุ่มทั้ง Video และ Audio ได้พร้อมกันหลายคน โดยรองรับสูงสุดถึง 32 บุคคลในครั้งเดียว และหน้าต่างของผู้ที่กำลังพูดจะมีการขยายใหญ่ขึ้นโดยอัตโนมัติด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับ Messages ได้

Memoji และ Animoji แบบใหม่

Memoji ถือเป็นลูกเล่นใหม่ที่ตามมาจาก Animoji บน iPhone X โดยผู้ใช้สามารถสร้างคาแรกเตอร์ของตัวเองให้เป็น Memoji ได้ ซึ่งคล้ายกับ AR Emoji ของ Samsung Galaxy S9/S9+ ไว้ใช้ส่งหากันผ่านแอปพลิเคชัน Messages และ FaceTime นอกจากนี้ Animoji ยังเพิ่มคาแรกเตอร์ใหม่อย่าง หมีโคอาล่า, เสือ, ผี และไดโนเสาร์ทีเร็กซ์ เข้ามาใหม่ ซึ่งทั้ง Memoji และ Animoji สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของใบหน้าได้ โดยที่ขยิบตา และแลบลิ้นได้แล้ว

Camera Effects

เมื่ออัปเดตเป็น iOS 12 ผู้ใช้สามารถส่งภาพไปที่แอปพลิเคชัน Messages และ FaceTime ได้ทันที รวมถึงเพิ่มลูกเล่นที่น่าสนใจอย่าง สติกเกอร์ และเอฟเฟ็กต่างๆ รวมถึง Memoji และ Animoji ได้ตามที่ต้องการ

เทคโนโลยี AR (Augmented Reality)

ARKit 2 เวอร์ชันใหม่ เปิดให้ Developer สร้างแอปพลิเคชันที่รองรับเทคโนโลยี AR ด้วยเครื่องมือที่ใหม่ขึ้นกว่าเดิม และพัฒนาการเล่นเกม AR ร่วมกันระหว่างอุปกรณ์ โดยมีแอปพลิเคชันน้องใหม่อย่าง Measure ที่จะช่วยตรวจวัดวัตถุแบบ 3 มิติผ่านทางกล้อง

Screen Time




iOS 12 มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ช่วยบริหารเวลาการใช้งาน iDevice ต่างๆ เพื่อช่วยลดปัญหาการติดสมาร์ทโฟน ซึ่งเป็นการแจ้งให้ผู้ใช้ทราบว่าใช้เวลาไปในแต่ละแอป รวมถึงเว็บไซต์ต่างๆ ไปมากเท่าใด ผสานกับฟีเจอร์ App Limits ที่สามารถกำหนดระยะเวลาในการใช้งานในแต่ละแอปได้ และจะทำการแจ้งเตือนเมื่อใกล้หมดเวลา

Notifications



การแจ้งเตือนรูปแบบใหม่ที่สามารถตั้งค่าการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันต่างๆ ได้ที่หน้า Lock Screen โดยไม่ต้องเข้าไปตั้งค่าใน Setting ที่ละแอปพลิเคชัน



Do Not Disturb



สำหรับผู้ที่ต้องการสมาธิ หรือเวลาส่วนตัว ก็สามารถปิดการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยสามารถเลือกช่วงเวลาที่ต้องการเปิด-ปิด รวมถึงการระบุสถานที่



Photos


For You ฟีเจอร์ใหม่ใน Photos ที่เป็นการเตือนให้ระลึกถึงเหตุการณ์ในอดีต และระบบ Sharing Suggestion ที่ฉลาดมากกว่าเดิม ซึ่งช่วยให้แชร์ภาพถ่ายกับเพื่อนได้ง่ายขึ้น รวมถึงปรับปรุงระบบการเสิชใน Photos ให้ดีขึ้นอีกด้วย





Siri Shortcuts



Siri Shortcuts เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ Siri สามารถทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันแบบ Third-Party ได้ ซึ่ง Siri จะเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้ พร้อมกับแนะนำกิจกรรมนั้นๆ ในเวลาปกติที่เคยทำ อย่างเช่น แจ้งเตือนการสั่งกาแฟในตอนเช้า



ระบบรักษาความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัว



iOS 12 ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวกับผู้ใช้มากยิ่งขึ้น โดยการเพิ่มระบบการติดตามอัจฉริยะ (Intelligent Tracking Prevention) โดยขณะใช้งาน Safari จะช่วยป้องกันไม่ให้ปุ่มโซเชียลมีเดีย เช่น Like หรือ Share รวมถึง Widget แสดงความคิดเห็นติดตามผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต


ฟีเจอร์อื่นๆ ที่น่าสนใจ


- Apple Book ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ และค้นหาได้ง่ายขึ้น รวมถึงเพิ่มBook Store สำหรับเรียกดูคอลเล็กชันต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
- บอกรายละเอียดเกี่ยวกับ Battery ที่ใช้งานในแต่ละแอปพลิเคชันมากขึ้น
- ระบบ Security code AutoFill โดยหลังจากที่ได้รับ SMS สำหรับยืนยันตัวตน ระบบจะใส่เลขรหัสดังกล่างลงในช่องที่กำหนดโดยอัตโนมัติ
- แอปพลิเคชัน Stock รองรับการใช้งานบน iPad แล้ว
- Voice Memos รองรับการใช้งานบน iPad แล้ว
- เพิ่ม CarPlay แอปพลิเคชันสำหรับนำทาง
- สามารถจดจำรหัสผ่านของทั้งแอปพลิเคชัน หรือเว็บไซต์ต่างๆ อัตโนมัติ โดยไม่จำเป็นต้องจำรหัสของแต่ละที่


รายชื่ออุปกรณ์ที่ได้ไปต่อกับ iOS 12




เรียกได้ว่า iOS 12 เวอร์ชันใหม่นี้มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ และอัปเกรดฟีเจอร์เดิมให้ดีขึ้นในหลายด้านเลยทีเดียว และทีสำคัญอุปกรณ์ในปีก่อนอย่าง iPhone 5S ก็ยังได้ไปต่อด้วยเช่นกัน ส่วนกำหนดการปล่อยให้ดาวน์โหลดไปใช้งานกันสำหรับผู้ใช้ทั่วไปนั้นคาดว่าจะเป็นช่วงหลังจากที่เปิดตัว iPhone 2018 ที่มีกำหนดในเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป หากมีข้อมูลใดเพิ่มเติมทางทีมงานจะรีบมาอัปเดตให้ได้ทราบกันในทันที

สำหรับนักพัฒนาสามารถดาวน์โหลด iOS 12 Developer Preview ได้แล้วผ่านทาง developer.apple.com ส่วนผู้ใช้ iOS สามารถดาวน์โหลดเวอร์ชัน Public Beta ผ่านทาง beta.apple.com โดยจะเปิดให้ดาวน์โหลดกันภายในเดือนนี้



ที่มา : Apple

วันที่ : 5/6/2561